fbpx

ในเดือนตุลาคม 2563 เป็นครั้งแรกที่ Big Hit Entertainment จะเข้าสู่กระบวนการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไป หรือที่รู้จักกันในนาม IPO ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองในบรรดานักลงทุนและแฟน ๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจาก Big Hit เป็นค่ายเพลงที่แม้จะเพิ่งก่อตั้งขึ้นไม่นานเมื่อเทียบกับค่ายใหญ่ และมีศิลปินในค่ายอย่าง BTS วงบอยแบนด์ที่ดังไกลทั่วโลก ทั้งนี้ มีการคาดการณ์มูลค่าตามราคาตลาดว่า จะมีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าหุ้นของ Big 3 (SM-JYP-YG) ซึ่งเป็นบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้รวมกันเสียอีก

การเสนอขายหุ้นสู่สาธารณะไม่ใช่กระบวนที่ทำง่าย ๆ เหล่าแฟน ๆ หลายคนอาจไม่ได้ติดตามเรื่องหุ้นหรือการลงทุนอย่างใกล้ชิด วันนี้ส่องสื่อจะพามาทำความรู้จักและตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นของ Big Hit ครั้งนี้กัน

IPO และ KOSPI คืออะไร?

IPO ย่อมาจาก Initial Public Offering คือการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไป เป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัท ที่จะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มทุนเพื่อขยายธุรกิจต่อไปได้อีกในอนาคต

ต้องบอกก่อนว่าตลาดหุ้นของเกาหลีนั้น จะแบ่งเป็น 4 ตลาด Big Hit จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ KOSPI ซึ่งเป็นกระดานหลักในตลาดหลักทรัพย์เกาหลี โดยส่วนมากบริษัทใหญ่ ๆ จะอยู่ในกระดานนี้ ในขณะที่ KOSDAQ เป็นกระดานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กจนถึงปานกลาง โดยบริษัทบันเทิงมักจดทะเบียนในตลาดนี้ เช่น Big 3 (SM-JYP-YG), Cube Entertainment หรือ FNC Entertainment เป็นต้น

ราคา IPO?

Big Hit เตรียมเสนอขายหุ้นเป็นจำนวน 7.13 ล้านหุ้น ที่ราคาระหว่าง 105,000 วอน (≈2,700 บาท) ถึง 135,000 วอน (≈3,500 บาท) ต่อหุ้น แต่ราคาการเปิดขายหุ้นจะตัดสินครั้งสุดท้ายโดยผู้จัดจำหน่าย ในวันที่ 28 กันยายน 2563 ซึ่งพิจารณาจากความต้องการของตลาดและการจองล่วงหน้าจากสถาบันนักลงทุน ตั้งแต่วันที่ 24-25 กันยายน 2563

มูลค่าหลังเสนอขายหุ้น?

มูลค่าของหุ้นคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 7.487 แสนล้านวอน (≈ 2 หมื่นล้านบาท) ถึง 9.626 แสนล้านวอน (≈ 2.5 หมื่นล้านบาท) และมูลค่าของ Big Hit จะอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านล้านวอน นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าจะสามารถทำมูลค่าได้สูงถึง 4.6 ล้านล้านวอน (≈ 1.21 แสนล้านบาท)

บัง ชี-ฮย็อกและ BTS จะมีหุ้นเท่าไหร่?

บัง ชี-ฮย็อก ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Big Hit เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท โดยมี 12,377,337 หุ้นหรือคิดเป็น 43.44 ของทั้งหมด หากราคาเสนอขายสูงถึง 135,000 วอนต่อหุ้น (≈3,500 บาท) หุ้นของเขาจะมีมูลค่า 1.67 ล้านล้านวอน (≈ 4.4 หมื่นล้านบาท) ซึ่งมีมูลค่ารวมสูงกว่า CEO ของ JYP และ SM รวมกันเสียอีก

ในขณะที่ BTS จะได้รับ 478,695 หุ้น ซึ่งจะแบ่งให้แต่ละสมาชิกอย่างเท่ากัน โดยจะได้รับคนละ 68,385 หุ้น ซึ่งมีมูลค่า 9.2 พันล้านวอน (≈ 247 ล้านบาท) ตามช่วงราคาสูงสุด

อาร์มี่หรือแฟน ๆ ซื้อหุ้นได้ไหม?

อาร์มี่ (ชื่อแฟนคลับของ BTS) สามารถร่วมเป็นเจ้าของ Big Hit ได้ โดยมี 2 วิธีคือ จองหุ้นล่วงหน้าก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ และอีกวิธีคือ ซื้อหุ้นในช่วงเวลาการซื้อขายหลังจากเข้าจดทะเบียนแล้ว

ส่วนอาร์มี่ต่างชาติก็ซื้อได้นะ แต่หากอยู่ในเกาหลีก็จะดำเนินการได้เร็วกว่าคนที่อยู่นอกเกาหลี และจะซื้อได้ก็ต่อเมื่อเข้าจดทะเบียนแล้วเท่านั้น ส่วนแฟน ๆ ต่างชาติที่อยู่นอกเกาหลี สามารถซื้อหุ้นได้ แต่ต้องผ่านขั้นตอนที่นานกว่าเพราะบริษัทหลักทรัพย์ในหลายประเทศไม่รองรับการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีโดยตรง ดังนั้นชาวต่างชาติที่ต้องการลงทุนในเกาหลีจะต้องหาโบรกเกอร์เป็นตัวแทนในการซื้อขายเสียก่อน

ประโยชน์และความเสี่ยง?

นอกเหนือจากความพอใจในการสนับสนุนศิลปินที่ชื่นชอบแล้ว Big Hit ยังเป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจมาก

ประการแรก ยอดขายของ Big Hit ครึ่งปีแรกสูงกว่ายอดขายของบริษัทบันเทิงอื่นๆ  ถึง 4 เท่า สูงกว่า JYP ที่ทำยอดขายได้ดีสุดในบรรดาสามค่ายใหญ่

ประการสอง Big Hit มีการเติบโตที่สูงเร็วมาก ในปี 2018 Big Hit มียอดขายจาก 301.4 พันล้านวอน (≈ 7,800 ล้านบาท) กำไร 79.9 พันล้านวอน (≈ 2,100 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นเป็น 587.2 พันล้านวอน (≈ 15,000 ล้านบาท) กำไร 98.7 พันล้านวอน (≈ 2,500 ล้านบาท) ในปี 2019 แม้ในปีนี้จะมีการยกเลิกคอนเสิร์ตตามที่เคยวางแผนไว้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ยอดขายและผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทยังเพิ่มขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์และ 30 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

แน่นอนว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงที่นักลงทุนมองคือ บริษัทนั้นมีรายได้ส่วนใหญ่มาจาก BTS ซึ่งอาจเป็นการพึ่งพาตัวศิลปินเพียงอย่างเดียวหรือไม่? และในอนาคตหากสมาชิกต้องไปเกณฑ์ทหาร ทิศทางจะเป็นอย่างไรต่อไป

เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว Big Hit จึงขยายธุรกิจบริษัท โดยซื้อกิจการอีกสองแห่งคือ Pledis Entertainment และ Source Music และเพิ่มจำนวนศิลปินฝึกหัดเพื่อเปิดตัววงใหม่ในอนาคต

สรุป

การเสนอขายหุ้น IPO ของ Big Hit เป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก เนื่องจากมีข่าวเรื่องการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อยู่หลายครั้ง บวกกับตัวมูลค่าของ Big Hit เองที่เติบโตขึ้นอย่างมากจากความสำเร็จของ BTS และการเปิดตัวบอยแบนด์อีกวงคือ TXT เมื่อปีที่แล้ว และการเข้าซื้อกิจการ Pledis Entertainment และ Source Music รวมถึงแผนในอนาคตของ Big Hit ที่จะมีการเปิดตัวบอยแบนด์และเกิร์ลกรุปใหม่ หลังจากนี้ต้องจับตามองว่ามูลค่าจะเป็นไปตามที่คาดหรือไม่ และในอนาคต Big Hit จะได้รับการขนามนามว่าอยู่ในกลุ่ม Big หรือไม่? ต้องติดตามกันต่อไป

อ้างอิง
The Korea Herald
Reuters
Kaohoon