fbpx

บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2/2563 โดยผลประกอบการรวมมีรายได้อยู่ที่ 321,407,000 บาท และมีผลประกอบการขาดทุนอยู่ที่ 35,251,000 บาท โดยเป็นการประกาศผลประกอบการที่ล่าช้ากว่าบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ ด้วย

โดยผลประกอบการของเครือเนชั่นนั้น แบ่งรายได้เป็นรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์และโฆษณาเป็นจำนวนเงิน 77,340,000 บาท โดยเป็นรายได้จากค่าโฆษณา 47,740,000 บาท รายได้จากค่าขายหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ 12,748,000 บาท และรายได้อื่นๆ 2,450,000 บาท ซึ่งรายได้จากส่วนนี้มีรายได้ระหว่างส่วนงานกันอยู่ 9,870,000 บาทด้วย

ส่วนของธุรกิจสื่อกระจายภาพและเสียงและสื่อสมัยใหม่มีรายได้ทั้งหมด 198,557,000 บาท โดยมีรายได้จากค่าโฆษณา 132,811,000 บาท และรายได้ระหว่างส่วนงานอยู่ที่ 54,384,000 บาท

นอกจากนั้นยังมีรายได้จากจำหน่ายผลิตภัณฑ์มีรายได้อยู่ที่ 105,286,000 บาท และรายได้อื่นๆ มีรายได้ทั้งหมด 4,478,000 บาท และเมื่อรวมรายได้จากค่าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแล้วก็จะทำให้มีรายได้รวมอยู่ที่ 321,407,000 บาท ในขณะเดียวกันก็มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 347,320,000 บาท ทำให้ขาดทุนอยู่ที่ 35,251,000 บาท ซึ่งเป็นยอดขาดทุนหลังหักยอดขาดทุนจากกิจกรรมดำเนินงานแล้ว

ซึ่งรายได้น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ทั้งหมด 670,098,000 บาท และมีกำไรอยู่ที่ 168,274,000 บาท เนื่องจากรายได้ ค่าโฆษณาลดลงร้อยละ 28 สาเหตุหลักเนื่องจากบริษัทย่อยได้ คืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่อง 26 แก่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(“กสทช.”) และมีมติให้ยุติการออกอากาศในวันที่16 สิงหาคม 2562 ส่งผลกระทบทำให้รายได้ลดลงจากปีก่อน

นอกจากนี้รายได้จากการจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ลดลงร้อยละ 50 สาเหตุหลักเนื่องจากการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค ส่งผลให้กลุ่มบริษัทได้ยุติการประกอบธุรกิจหนังสือพิมพ์ “The Nation” เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2562 นอกจากนี้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กลุ่มบริษัทได้ยุติการประกอบธุรกิจหนังสือพิมพ์ “คมชัดลึก” เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 ทำให้รายได้ลดลงจากปีก่อน

สำหรับส่วนสำคัญที่ทางเครือเนชั่นประกาศไว้ในงบการเงิน และถือว่าเป็นพัฒนาการสำคัญประกอบไปด้วย เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“SET”) ได้ประกาศขึ้นเครื่องหมาย “C” (Caution) ให้หลักทรัพย์ของบริษัทซึ่งมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว ทั้งนี้บริษัทได้เผยแพร่แผนการแก้ไขเหตุดังกล่าวแล้ว

นอกจากนี้ในวันที่ 26 มีนาคม 2563 บริษัท เนชั่น ดิจิทัล คอนเทนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้เข้าทำสัญญาซื้อสิทธิในการใช้ชื่อทางการค้า (Trade Name) “ขอบสนาม” และทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องของส่วนงานธุรกิจขอบสนามจำนวน 25 ล้านบาท จากบริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ทำให้ในระหว่างงวดนับตั้งแต่วันที่  26 มีนาคม 2563 ถึงวันที่  30  มิถุนายน  2563  ธุรกิจขอบสนามมีรายได้จำนวน 4.90 ล้านบาท และมีกำไรจำนวน 0.71 ล้านบาท ซึ่งรวมเป็นส่วนหนึ่งของผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท

เรียบเรียงโดย กฤตนัน ดิษฐบรรจง