fbpx

บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยงบการเงินประจำไตรมาสที่ 1/2564 แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 โดยพบว่ามีรายได้มากกว่า 1,318 ล้านบาท และมีกำไรประจำงวดอยู่ที่ 138 ล้านบาท

โดยรายได้ของช่อง 3 แบ่งเป็นรายได้จากการขายเวลาโฆษณา ซึ่งในไตรมาสนี้มีรายได้เข้ามาทั้งหมด 1,174,531,000 บาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากส่วนงานนี้อยู่ที่ 1,399,959,000 บาท โดยการลดลงของรายได้มาจากการขายนาทีโฆษณาที่ลดลงจากปัจจัยฤดูกาลในเดือนมกราคมที่มีการใช้งบโฆษณาลดลงมากและได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ระลอกใหม่ที่ทำให้การใช้เม็ดเงินโฆษณาลดลง

ในขณะที่รายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่น ในไตรมาสนี้มีรายได้เข้ามาทั้งหมด 133,678,000 บาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 219,605,000 บาท โดยเป็นการลดลงจากธุรกิจบริการจำหน่ายตั๋วที่ถอดออกไปหลังจากการขายเงินลงทุนใน Tero เป็นหลัก ในขณะที่ธุรกิจการขายลิขสิทธิ์ละครไปต่างประเทศ (Global Content Licensing) และธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) นั้นทำรายได้รวมกันอยู่ที่ 126,100,000 บาทในไตรมาสนี้ แต่น้อยกว่าไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากในไตรมาสที่แล้วมีการออกอากาศแบบ Simulcast

และส่วนสุดท้ายคือรายได้อื่น ๆ ในไตรมาสนี้มีรายได้เข้ามาอยู่ที่ 10,339,000 บาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้เข้ามาอยู่ที่ 10,814,000 บาท ทำให้รายได้รวมในไตรมาสนี้ของช่อง 3 อยู่ที่ 1,318,548,000 บาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,647,323,000 บาท เมื่อรวมกับรายได้ทางการเงินอีก 561,000 บาท ทำให้มีกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและภาษีเงินได้รวมทั้งสิ้น 138,828,000 บาท มากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 305,366,000 บาท

สำหรับการเปลี่ยนแปลงในไตรมาส 1/2564 นั้นพบว่า หลังจากช่อง 3 เปิดตัวแอปพลิเคชัน CH3Plus (สามพลัส) ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์รวมความบันเทิง ในปี 2563 ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดสมัครสมาชิกและเข้าใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน ในไตรมาสที่ 1/2564 กลุ่ม BEC ได้มีการแถลงการเปิดตัว “CH3Plus Premium” ซี่งเป็นการต่อยอดของ CH3 Plus ในระบบบอกรับสมาชิก โดยมีฟังก์ชันในการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น เช่น สามารถรับชมคอนเทนต์ต่อเนื่องกว่า 10,000 ชั่วโมงโดยไม่มีโฆษณาคั่น ภาพและเสียงคมชัดระดับ Full HD (1080P) สามารถปรับระดับความเร็วการรับชมได้ถึง 8 ระดับ รับชมรายการสดและย้อนดูรายการที่ออกอากาศแล้วได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังมีเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ที่ไม่เคยรับชมที่ไหนมาก่อน รวมถึง “Fandom” ฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ชมสามารถใกล้ชิดกับดาราที่ชื่นชอบได้มากกว่าที่เคย ซึ่งในวันที่ 19 มีนาคม 2564 ได้มีการจัดงาน “Gulf The Next Stage” คอนเสิร์ตออนไลน์บน CH3 Plus Premium ครั้งแรก ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีการรับชมพร้อมกันกว่า 7,000 ราย จาก 75 ประเทศทั่วโลก และมีแผนในการจัดงานให้ต่อเนื่องเดือนละครั้ง