สมาคมโทรทัศน์ดิจิตอล ประชุมร่วมหารือกสทช. ในการผลักดันและวางรากฐาน การสร้าง Ecosystem การดูคอนเท้นจากทีวีสำหรับคนไทยโดยไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มต่างชาติ
เรื่องนี่การเป็นที่น่าจับตาอย่างมากในวงการสื่อโดยเฉพาะผู้ถือใบอนุญาตทีวีดิจิตอลที่กำลังจะหมดสัญญาในอีก5ปีข้างหน้า(ปี2572) ว่าจะไปอย่างไรต่อ เพราะหันซ้ายหันขวา ประเทศเราก็โดนแพลตฟอร์มต่างชาติยึดพื้นที่ทำกินไปหมดแล้ว
ยังไม่นับรวมว่า สัมปทานโครงข่ายอย่าง MUX ที่มีหน้าที่รับส่งสัญญาณทีวีดิจิตอลกำลังจะหมดสัญญา “ก่อน” ในปี2571
ซึ่งก็ยังลุ้นว่า ถนนส่งสัญญาณหมดสัญญาก่อน ช่องทีวี แล้วช่องจะส่งสัญญาณยังไง???
ประกอบกับพฤติกรรมผู้รับชม เขาไม่ได้เลือกช่องดู แต่เขาเลือกคอนเท้นที่อยากดูที่ไหนเมื่ไหร่ก็ได้ โดยไม่สนหรอกว่ามาจากแพลตฟอร์มไหน ทำให้ตัวเลขยอดผู้ชม หรือ เรตติ้งทีวี มีแต่น้อยลงทุกปีๆอย่างต่อเนื่อง
ถ้าเราไม่นับการดูมือถือ การดูทีวีมันถูกบังคับปรับพฤติกรรมไปแล้ว ทีวีที่ประชาชนออกไปซื้อมาทุกวันนี้แทบไม่เหลือจอตู็ที่ต้องใช้เสาก้างปลาให้ดู
แต่มันเริ่มต้นด้วย Smart tv ที่ใช้ระบบปฏิบัติการเหมือนมือถือ จะโหลดแอพเอง หรือจะดูแอพที่เขาให้มาตั้งแต่เปิดเครื่องเลยเช่น YouTube, Netflix ไม่นับรวมการดูทีวีผ่านกล่องของค่ายมือถืออย่าง Telco (ทั้งเสียงเงินและไม่เสียเงิน) เพียงแค่ที่บ้านมีอินเตอร์เน็ตก็เลือกคอนเท้นได้มหาศาลโดยไม่ต้องพึ่งพารายการสดจากทีวีจริงๆ
และแน่นนอนเมื่อเราชมคอนเท้นผ่านแพลตฟอร์มต่างชาติเหล่านี้ ข้อมูลการรับชมก็ไหลออกไปอยู่ต่างชาติด้วย ยังไม่นับรวมเม็ดเงินโฆษณามหาศาลที่ก็ไหนออกเช่นกัน
แต่ครั้นที่ประเทศไทยจะทำ OTT จริงจัง ก็ไม่ง่ายเพราะมีหลายคนทำแล้วก็ต้องพับกระดานไปด้วยหลายปัจจัย ทั้ง Capacity คนดูน้อย ระบบไม่เสถียร การลงทุนมีขีดจำกัด การดู Video Ondemand ต้องหาคอนเท้นเยอะมากพอรองรับผู้ชม ดังนั้นถ้าไทยจะทำ OTT platform แข่งกับต่างชาติ คงไม่ทันแน่นอน
การเริ่มต้นของโครงการใหม่นี้ ที่คาดหวังว่าจะเป็น “จุดเริ่มต้น” ในการเผยแพร่ Live broadcasting tv program ก่อน เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มให้คนไทยทีมีอินเตอร์เน็ตเข้าถึง ได้รับชมคอนเท้นรายการสดจากช่องทีวีดิจิตอล ผ่าน Smart tv ที่เขามีอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มโอกาสดึงคนดูจากแอพต่างชาติกลับมาดูของไทยให้ได้ก่อน ขณะเดียวกันแพลตฟอร์มจะได้รู้จักผู้ชมเพื่อเรตติ้งแบบ one to one มากกว่าแบบสุ่มตัวอย่าง และสามารถพัฒนาการวัดเรตติ้งแบบคุณภาพ มากกว่าปริมาณ
ยังไม่นับรวมว่า เมื่อแพลตฟอร์มนี้ไม่ต้องรอให้คนโหลด แต่กสทช.สามารถเจรจาให้เป็น App พื้นฐานจากโรงงาน ใครซื้อทีวีเปิดมาเจอแอพนี้คู่กับ Netflix ก็ช่วยสร้างโอกาสในการเลือกรับชมทีวีไทยได้มากแล้ว
ที่สำคัญ ข้อมูลการรับชมของคนไทยจะไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ และมีโอกาสในการสร้าบรูปแบบโฆษณาใหม่ๆ ให้กับนักการตลาด และเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้กับช่อง
รายงานข่าวแจ้งว่า มีการหารือและตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาโครงการนี้อย่างจริงจัง อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในแผนแม่บทกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2563-2568) (ฉบับปรับปรุง) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประชาชนได้แต่ตั้งตารอว่า โครงสร้างพื้นฐานของสื่อไทยจะเป็นอย่างไร…รอติดตาม
สื่อที่จะสะท้อนสื่อด้วยกันเอง เพื่อมาตรฐานสื่อที่มีคุณภาพ
