ปี 2561 เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ยากลำบากอีกปีของทีวีดิจิทัลหลายๆ ช่อง ลามมาจนถึงปี 2562 ที่เรียกได้ว่าหลายสถานีโทรทัศน์ต้องปลดคนออกกันเป็นว่าเล่น บางช่องก็รอเพื่อที่จะคืนใบอนุญาตกันเลยทีเดียว จนมีทีวีที่คืนช่องกันจริงๆ มากถึง 7 ช่องด้วยกัน หลายคนคงจะสงสัยกันจริงๆ ใช่ไหมว่าทีวีดิจิทัลที่ออกอากาศอยู่นั้นอยู่ในสภาวะไหนกันแน่? วันนี้ส่องสื่อเลยค้นข้อมูลงบการเงินของทีวีดิจิทัล 9 ช่องออกมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน เพื่อจะได้ทราบสถานการณ์ของทีวีดิจิทัลช่องนั้นๆ ด้วยครับ
GMM25 : รายได้มาก ขาดทุนก็ลดลง
เริ่มต้นด้วยช่องที่ประกาศฟ้าผ่า ปลดทีมข่าวออกทั้งหมด 27 คนและยุบรายการข่าวออกทั้งหมด หันไปทำรายการแนวถนัดของตนเองอย่าง “GMM25” โดยผู้ถือใบอนุญาตคือ บจก.จีเอ็มเอ็ม แชนแนล ที่ล่าสุดประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ซึ่งในปี 2561 นั้นมีผลประกอบการที่ดีขึ้น โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเลยทีเดียวจากปีก่อน ส่วนกำไร(ขาดทุน) ก็ยังเห็นเลขบวกอยู่เนื่องๆ ที่ 413 ล้านบาทนั่นเอง เรียกได้ว่าต้องรัดเข็มขัดแล้วยังต้องกระตุ้นทีมขายให้ขายได้มากกว่านี้ได้อีกนะครับ
VOICE TV : รายได้ไม่เข้าเป้า เพราะความไม่ชัดเจน…
เป็นอีกหนึ่งช่องที่เวลามีปัญหาทีไร โดนสั่งปิดสถานีเกือบทุกรอบ ถึงแม้ว่ารอบล่าสุดศาลจะคุ้มครองไม่ให้ปิดแล้วก็ตาม สำหรับ VOICE TV 21 ที่ฝ่ายขายก็ทำงานหนักไม่แพ้เรตติ้งที่กำลังทยอยแซงหน้าหลายช่องเช่นกัน แต่พอดูตัวเลขผลประกอบการแล้วก้ได้แต่ฮึบสู้ก่อนที่จะคืนใบอนุญาตและปิดทีวีดิจิทัลในวันที่ 31 กรกฏาคม 2562 ต่อไป ซึ่งผลประกอบการในปี 2561 ก็ทำรายได้ไป 121 ล้านบาท และขาดทุนอยู่ที่ 352 ล้านบาทเช่นกัน
TNN24 : ช่องที่ต้องกัดฟันสู้อีกนิด
แลดูเป็นช่องที่ใกล้เส้นที่จะทำกำไรแล้ว สำหรับ TNN24 ที่กลุ่มทรูตัดสินใจที่จะไม่คืนช่องนี้แต่อย่างใด อาจจะเพราะเห็นผลประกอบการในปี 2561 แล้วแอบยิ้มมุมปากเล็กๆ อยู่แน่นอน เพราะทำรายได้ไปถึง 440 ล้านบาท และขาดทุนน้อยลงอยู่ที่ 43 ล้านบาท เรียกได้ว่าปีนี้ช่อง TNN ลงทุนเต็มที่ ใครปล่อยอะไรมาแกก็เตรียมพื้นที่ให้ตลอด หวังดันช่องให้เป็นเบอร์ 1 ด้านข่าวอย่างแน่นอน!
TRUE4U : ควรไปต่อ หรือพอแค่นี้?
เรียกได้ว่าเป็นอีกช่องที่ทรูพยายามดันแล้วดันอีก แต่ก็ยังไม่สำเร็จสักทีสำหรับ TRUE4U ที่ปี 2561 เรียกได้ว่าเรตติ้งก็ยังไม่เข้าเป้าที่ตั้งไว้สักที เช่นเดียวกันกับผลประกอบการที่ทำไปได้อยู่ที่ 831 ล้านบาท ส่วนผลขาดทุนนั้นก็อยู่ที่ 317 ล้านบาท เรียกได้ว่าเลือดก็ยังไม่หยุดไหลเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทรูก็ตั้งใจที่จะผยุงช่องนี้ให้รอดจนจบครบ 15 ปี ต้องรอดูกันว่าจะงัดอะไรมาสู้ต่อในช่วงครึ่งปี 2562 รับรองว่างานนี้สนุกแน่ๆ
PPTV 36 : สายป่านนี้พี่ยังมีอีกยาวไกล
เป็นช่องสายเปย์ที่ใครๆ ก็อยากมีอย่างแน่นอน สำหรับ PPTVHD ช่อง 36 ที่เปย์ไม่หยุดแม้เลือดจะไหลออกเยอะแล้วก็ตาม ทั้งคอนเทนต์กีฬาเอย สารคดีเอย ล่าสุดยังไปซื้อรายการวาไรตี้และละครมาอีกเป็นกอง พร้อมลุยฉายครึ่งปีหลัง 2562 อย่างแน่นอน ซึ่งผลจากการลงทุนมาตลอด 5 ปีก็ทำให้รายจ่ายไม่สมดุลกับรายได้มากนัก (และรวมถึงเรตติ้งด้วย) โดยในปี 2561 PPTV ทำรายได้อยู่ที่ 495 ล้านบาท ขาดทุนอยู่ที่ 1,837 ล้านบาทนั่นเอง
AMARIN TV : “ทุบโต๊ะข่าว” สร้างดอกผล!!
ส่วนฟากของอมรินทร์ทีวี หลังจากที่ “ทุบโต๊ะข่าว” เริ่มติดตลาดได้เรตติ้งเป็นที่น่าพอใจสำหรับช่องแล้ว คราวนี้ช่องก็เริ่มทำการปรับเปลี่ยนตัวรายการอื่นๆ ด้วยการดึงละครมาขาย รวมไปถึงเน้นรายการวาไรตี้บันเทิงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจากผลประกอบการปี 2561 ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าอมรินทร์เริ่มจับทางตัวเองได้มากขึ้น โดยทำรายได้ไปถึง 964 ล้านบาท และยอดขาดทุนอยู่ที่ 32 ล้านบาท
MONO29 : ฟรีทีวี(เจ้าใหม่)ที่โกยกำไรได้เก่งที่สุด!
เรียกได้ว่าเปิดปี 2562 มามีแต่เรื่องสนุกๆ สำหรับช่องนี้ เพราะมีทั้งหนังใหม่ที่เพิ่งลงฟรีทีวีเป็นครั้งแรกมาฉายที่นี่ รวมไปถึงได้หนังสนุกๆ เหมาะกับแต่ละช่วงที่หนังเป็นกระแส ก็ยิ่งโกยให้ช่อง MONO29 คว้าเรตติ้งอันดับ 3 นำหน้า Workpoint มาโดยตลอดเลย ซึ่งผลประกอบการก็สอดคล้องเช่นเดียวกัน โดยในปี 2561 ทำรายได้อยู่ที่ 3,806 ล้านบาท ได้กำไรอยู่ที่ 32 ล้านบาท
BEC : กำไรมักจะมาตอนใกล้จบ
เรียกว่าเป็นช่องที่ต้องลุ้นตลอดเวลาสำหรับช่อง 33 – 28 – 13 ของเครือ “บีอีซี” โดย บจก.บีอีซี-มัลติมีเดีย เป็นผู้ถือใบอนุญาตทั้ง 3 ช่อง และล่าสุดก็ได้ตัดสินใจคืนช่อง 13 และ 28 ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย เพื่อมาดูแลช่อง 33 ที่ตอนนี้พ่วงกับช่อง 3 เดิมอยู่ให้พัฒนามากขึ้น เนื่องมาจากช่อง 3 เดิมเองก็จะหมดสัมปทานในปี 2563 การยุบไปอีก 2 ช่องก็จะทำให้ช่อง 33 เป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อมากเลยทีเดียว แต่สำหรับผลประกอบการในปี 2561 นั้นมีกำไรมากขึ้น โดยทำรายได้อยู่ที่ 2,572 ล้านบาท และได้กำไรไป 111 ล้านบาท
ช่อง 7 HD : กำไรเนาะๆ อยู่ได้สบายอยู่แล้ว
ช่อง 7 HD ถือว่าเป็นช่องเดียวที่ลอยตัวเหนือสถานการณ์ของทีวีดิจิทัลทั้งหมดทั้งปวง ทั้งในแง่ของความนิยม เรตติ้งของช่องที่นำเหนือคู่แข่งทั้งหมด รวมไปถึงผลประกอบการที่ปี 2561 ทำรายได้สุงลิ่วไม่แพ้ช่องอื่นๆ เลยทีเดียว โดยทำรายได้อยู่ที่ 5,750 ล้านบาท ได้กำไรไปเบาๆ อยู่ที่ 1,633 ล้านบาท แค่นั้นเอง…
เรียกได้ว่าศึกการแข่งขันของเหล่าทีวีดิจิทัลเพื่อแย่งชิงเรตติ้งนี่มีความสำคัญมากๆ เพราะเป็นทั้งใบเบิกทางที่ก้าวไปสู่รายได้ที่มากขึ้น รวมไปถึงคนนิยมดูมากๆ ก็สามารถต่อยอดตลาดไปยังตลาดอื่นๆ ได้อีกด้วย แต่ยังไงก็แล้วแต่ก็ต้องเอาใจช่วยให้กับช่องที่พยายามก้าวขึ้นมาคว้าตำแหน่ง Top10 ขอให้ก้าวขึ้นมาให้ได้นะครับ! เอาใจช่วยทุกช่องเลยนะ
อ้างอิงข้อมูลโดย : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
วันที่อัพเดตข้อมูล : 31 พฤษภาคม 2562 (8.49 น.)
ชอบดูทีวี สนใจเรื่องราวของสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะสื่อทีวีและวิทยุ ชอบเขียนบทความ เป็นเด็กค่าย #YWC16
