fbpx

พูดถึงซีรีส์วาย ใครไม่นึกถึง “คริส-สิงโต” หรือคู่ล่าสุดอย่าง “ไบร์ท-วิน” ก็คงเรียกได้ว่าคงจะตกข่าวกันไปไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว วันนี้ทีมกองบรรณาธิการส่องสื่อซึ่งก็ติดซีรีส์เรื่อง “เพราะเราคู่กัน” ก็เกิดความสงสัยว่าบริษัทที่ผลิตซีรีส์วาย รวมไปถึงซีรีส์เรื่องอื่นๆ ที่วัยรุ่นนิยมกันมาก ปีๆ หนึ่งจะมีรายได้เท่าไหร่กันนะ เราเลยเอาคำตอบมาแบ่งให้ทุกคนให้ติดตามกันครับ

ก่อนอื่นต้องบอกว่า จีเอ็มเอ็ม ทีวี นั้นแต่เดิมเป็นบริษัทในเครือของ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งในภายหลังได้รวมเป็นบริษัทย่อยภายใต้ บจก.จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง เป็นการร่วมทุนระหว่างจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่และฝั่งตระกูลสิริวัฒนภักดี ประกอบไปด้วย บจก.สิริดำรงธรรม และ บจก.ภักดีวัฒนา โดยนอกจากจีเอ็มเอ็ม ทีวีแล้ว จีเอ็มเอ็ม แชนแนล (จีเอ็มเอ็ม 25) บจก.Change 2561 รวมไปถึงเอ-ไทม์ มีเดีย ก็ถือเป็นบริษัทย่อยภายใต้บริษัทนี้อีกด้วย

จีเอ็มเอ็ม ทีวีเริ่มหันมาทำละคร หรือซีรีส์มากขึ้นหลังจากการเกิดของทีวีดิจิทัล ซึ่งการผลิตละครเป็นการผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับทีวีดิจิทัล 2 ช่องของแกรมมี่เดิม ก่อนที่จะหันไปผลิตทั้งรายการและละครให้เพียงช่องจีเอ็มเอ็ม 25 เพียงช่องเดียวหลังจากควบรวมกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหนึ่งในกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ ก็คือการผลิตละครประเภทวาย หรือซีรีส์วาย เนื่องจากสามารถเจาะกลุ่มต่างประเทศและนำไปต่อยอดได้ในอนาคตอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจัด Fan meeting หรือแม้กระทั่งการนำคู่พระ-นายไปแสดงเรื่องอื่นๆ ต่อก็ได้อีกทางหนึ่งด้วย

ที่ผ่านมา จีเอ็มเอ็ม ทีวีสร้างชื่อจากการผลิตซีรีส์วายเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น “คริส-สิงโต” / “เต-นิว” หรืออย่างคู่ล่าสุดอย่าง “ไบร์ท-วิน” จากเรื่อง “เพราะเราคู่กัน” ที่ส่งผลให้ไม่ว่าเขาจะไปออกที่ไหน ก็มักจะได้ผลตอบรับที่ดีเช่นเดียวกันนั่นเอง

เรามาดูผลประกอบการของจีเอ็มเอ็ม ทีวีกันบ้าง เนื่องจากผลประกอบการของปี 2562 ยังไม่ออกมา และเราไม่สามารถตามสืบเรื่องผลประกอบการนี้ได้ เราจึงขออ้างอิงจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์มาก่อนนะครับ จากผลประกอบการของปี 2561 จะเห็นได้ว่ากำไรของจีเอ็มเอ็ม ทีวีมีอัตราที่ลดลงเล็กน้อย แต่อยู่ในอัตราที่ทำกำไรได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว โดยในปี 2560 สามารถทำกำไรได้มากถึง 66 ล้านบาทเลยทีเดียว ในขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 616 ล้านบาท!

เคล็ดลับสำคัญของจีเอ็มเอ็ม ทีวีในการผลิตละครก็คือ ต้องถูกจริตกับคนดูที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย คัดเลือกเรื่องที่มีคนอ่านเป็นจำนวนมากและคาดการณ์ว่าสามารถดัดแปลงเป็นละครได้ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงการทำการตลาดผ่านหลากหลายช่องทาง โดยเน้นเจาะออนไลน์โดยเฉพาะทวิตเตอร์ให้ประสบความสำเร็จ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเกิดดราม่าล่าสุดอย่างดราม่าจีน-ไต้หวัน-ฮ่องกง-ไทย เรายังไม่สามารถคาดคะเนว่าจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องจำนวนคนดูซีรีส์ลดลงหรือไม่? แล้วจะเป็นอย่างไรต่อกับอนาคตของบริษัทฯ ในการเจาะตลาดคนจีนที่เป็นฐานมั่นหลักของซีรีส์วาย ต้องรอดูในระยะยาวกันต่อไป ที่แน่นอนที่สุดก็คือโควิด-19 ทำพิษกับพวกเขาแล้วแน่ๆ เพราะไบร์ท-วินไม่สามารถออกงานได้อย่างเต็มที่นั่นเอง

อินโฟกราฟิกโดย ทินวุฒิ ลิวานัค