fbpx

เป็นอีกบริษัทที่ได้กำไรแบบเนาะ ๆ และเรียกว่าจะมากกว่าหลายบริษัทด้วยซ้ำ สำหรับบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ที่ล่าสุดได้ประกาศผลประกอบการสำหรับงวด 3 เดือนออกมาแล้ว และทำกำไรสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปี 2562 ด้วยตัวเลขเกือบ 100 ล้านบาท!

ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1/2563 JKN ทำรายได้รวมอยู่ที่ 460 ล้านบาท โดยแบ่งรายได้เป็น รายได้จากการขายลิขสิทธิ์ในประเทศ 280.96 ล้านบาท และขายต่างประเทศ 136.07 ล้านบาท ได้กำไรจากส่วนนี้ 175.58 ล้านบาท ส่วนต่อมาคือรายได้จากโฆษณา 3.71 ล้านบาท ขาดทุนจากส่วนนี้ไป 5..83 ล้านบาท พอหักล้างส่วนนี้ไปและค่าบริหารจัดการไปก็ทำให้ได้กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 169.75 ล้านบาท

เมื่อแบ่งรายได้จากส่วนขายลิขสิทธิ์ รายได้มาจากทีวีดิจิทัล โดยแบ่งเป็นรายได้จากทีวีดิจิทัลอย่างเดียว 9.41 ล้านบาท , รายได้จากการออกอากาศทางทีวีดิจิทัลและดาวเทียม อยู่ที่ 5.27 ล้านบาท และรายได้จากการออกอากาศร่วมกันระหว่างทีวีดิจิทัล ดาวเทียม และออนไลน์ (Video On Demand) อยู่ที่ 200.84 ล้านบาท รายได้ส่วนต่อมาคือมาจากทีวีดาวเทียม 48.07 ล้านบาท และออกอากาศพร้อมกับทั้งทางดาวเทียมและออนไลน์ (Video On Demand) อยู่ที่ 153.39 ล้านบาท ในขณะที่การออกอากาศผ่าน Video On Demand พร้อมกับการจัดจำหน่ายแบบ Home Entertainment มีรายได้อยู่ที่ 50,000 บาทเท่านั้น

สำหรับในส่วนของธุรกิจโฆษณานั้น มีการเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการที่ปีนี้กลุ่มบริษัทมีการขายเวลาโฆษณาเพิ่มมากขึ้นจากการที่บริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจผลิตรายการข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจภายใต้ชื่อ JKN-CNBC ซึ่งได้เริ่มออกอากาศมาตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2562 ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล และสื่อออนไลน์ รวมไปถึงการดำเนินงานของอีกหนึ่งบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจตัวแทนขายโฆษณาของกลุ่มบริษัทซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ส่งผลให้สามารถหาลูกค้าและทำรายได้จากธุรกิจโฆษณาเพิ่มขึ้นด้วย

เมื่อหักล้างลบค่าใช้จ่ายไปแล้ว ทำให้มีรายได้รวมของงวด 3 เดือนของปี 2563 อยู่ที่ 460.95 ล้านบาท เพิ่มจากงวดที่ 1/2562 ที่ได้ 424.05 ล้านบาท ทำให้ได้กำไรต่อหุ้น 0.16 บาท/หุ้น

สำหรับเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่ต้องจับตาสำหรับผลประกอบการในงวด 2/2563 นั่นก็คือ การเพิ่มทุนของ JKN News โดยเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2563 บริษัทฯได้ลงทุนเพิ่มในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด จำนวน 200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 20,000,000 บาท โดยมีสัดส่วนการลงทุนของบริษัทฯในบริษัทย่อยดังกล่าวคงเดิมที่ร้อยละ 100 นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการจัดตั้งบริษัทใหม่ที่ฟิลิปปินส์ โดยเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 บริษัทฯได้ลงทุนในหุ้นสามัญของ JKN Global Content Pte Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งใหม่ในประเทศสิงค์โปร์จำนวน 5,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 เหรียญสหรัฐฯ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยคิดเป็นร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด

นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่ประชุมได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 52.4 ล้านบาท (หุ้นสามัญ 104,839,834 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.5 บาท) จากเดิม 399 ล้านบาท (หุ้นสามัญ 798,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.5 บาท) เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 451.4 ล้านบาท (หุ้นสามัญ 902,839,834 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.5 บาท) เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล การใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ และการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพ ว่าจะมีผลต่อเนื่องกับธุรกิจโดยรวมหรือไม่? ติดตามกันต่อไป