fbpx

ถือว่าเป็นปีที่วงการสื่อมวลชนละแวกบางนาระส่ำระส่ายกันเป็นว่าเล่นเลย กับการ Lay-off บุคลากรในหลายๆ ตำแหน่งออก พร้อมทั้งยุบ “สำนักข่าวเนชั่น” หันเหไปทำเนชั่นทีวีอย่างเดียว ส่องสื่อก็เลยสงสัยกันว่าเนชั่นทีวีทำไมถึงกำไรมากขนาดนั้นเชียวหรือ? อะไรที่ “ฉาย บุนนาค” ถึงมั่นใจนักหนาถึงลงทุนในธุรกิจทีวีดิจิทัล ในขณะที่คนอื่นหันเหไปออนไลน์หมด ติดตามจากรายงานนี้กันครับ

ก่อนอื่นเราต้องรู้จักเจ้าของเนชั่นทีวีกันก่อน ว่าอันที่จริงแล้วก็คือ “บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” นั่นเอง โดยที่ผ่านมาเคยมีทีวีดิจิทัลทั้งหมด 2 ช่อง นั่นก็คือ NOW26 และ NATION TV ที่ล่าสุดเพิ่งปรับ Branding ไปหมาดๆ แต่หลังจากมีมาตรการคืนช่องทีวีดิจิทัล ทำให้เนชั่นตัดสินใจคืนช่อง 26 เพื่อทุ่มเทศักยภาพไปที่ช่อง 22 แทน นอกจากนั้นก่อนหน้านี้เรายังเคยนำเสนอว่าบริษัทหลักอย่าง “บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)” ก็ยังขายมหาวิทยาลัยเนชั่น ที่ดิน รวมไปถึงอาคารที่ทำการอีกด้วย

มาพูดถึงรายได้ของเนชั่นทีวีกันบ้าง รายได้หลักๆ มาจากค่าโฆษณามากกว่าร้อยละ 86 เลยทีเดียว โดยค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีอยู่ 398 ล้านบาท เป็น 424 ล้านบาทในปี 2562 ในขณะที่รายได้จากสื่อออนไลน์กลับลดลงเหลือเพียงหลักสิบล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นที่น่าตกใจมากๆ ว่าทำไมสวนกระแสมากขนาดนั้น และรายได้รวมของเนชั่นทีวีก็มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ได้รวม 424 ล้านบาท เป็น 493 ล้านบาทในปี 2562

นอกจากการทำสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีแล้ว ในรายงานประจำปี 2562 ที่รายงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังรายงานด้วยว่า NBC ยังมีการทำรายการร่วมกับสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อีกด้วย ซึ่งผลิตรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” โดยรายได้ตรงนี้จะมาจากส่วนแบ่งจากค่าโฆษณาที่เกิดขึ้นของช่อง 3 จะถูกแบ่งมาให้เนชั่นทีวีอีกทางหนึ่งด้วย

ในปีที่ผ่านมา เนชั่นทีวีนั้นได้วางแผนการตลาดโดยการขึ้นป้าย LED แสดงข่าวสารทั่วประเทศ และลงทุนปรับปรุงสตูดิโอใหม่โดยใช้งบไปทั้งสิ้น 120 ล้านบาท ด้วยกัน และนอกจากนั้นจะมีกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีของช่องเนชั่นทีวีอีกด้วย ซึ่งมีวงเงินการแจกรางวัลอยู่ที่ 20 ล้านบาท (จะเวอร์ไปไหน?)

มาพูดถึงรายได้ของเนชั่นทีวีกันบ้าง จะเห็นได้ว่าในปี 2562 ที่ผ่านมามีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 493 ล้านบาท ซึ่งต้นทุนในการให้บริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ได้กำไรรวมไปถึง 397,225,000 บาทเลยทีเดียว หักล้างขาดทุนได้เยอะสุด

แต่ในผลประกอบการล่าสุด ไตรมาสที่ 1/2563 เนชั่นมีรายได้รวม 218 ล้านบาท แบ่งตามหมวดหมู่รายได้ออกมาเป็น รายได้จากการขายโฆษณาจากสถานีโทรทัศน์ “เนชั่นทีวี ช่อง 22” เป็นรายได้ทั้งหมด 96.84 ล้านบาท รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 96.64 ล้านบาท รายได้จากการนำเที่ยว 12.86 ล้านบาท และสุดท้ายคือรายได้จากสื่อรูปแบบใหม่ รวมทั้งหมด 4.72 ล้านบาท ทำให้มียอดขาดทุนประจำงวดอยู่ที่ 18 ล้านบาท

สำหรับเรตติ้งของเนชั่นทีวีในไตรมาสที่ 1/2563 มีอัตราที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ลำดับอยู่อัตราที่ทรงตัวอยู่นั่นเอง โดยในเดือน มกราคม 2563 เรตติ้งอยู่ที่ 0.219 อยู่ลำดับที่ 9 เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เรตติ้งอยู่ที่ 0.209 อยู่ลำดับที่ 9 และเดือนมีนาคม 2563 เรตติ้งอยู่ที่ 0.240 อยู่ลำดับที่ 9 เช่นกัน

และล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่าบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึง 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็คือการรับทราบการลาออกของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม จากตำแหน่งกรรมการบริหาร กรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริษัท ตามหนังสือลาออก ฉบับลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ซึ่งนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ส่งถึงบริษัทฯ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป โดยในระหว่างนี้ NBC อยู่ในระหว่างการสรรหาตำแหน่งที่ว่างอีก 1 ตำแหน่งอยู่ในขณะนี้

นอกจากนั้น NBC ยังแจ้งว่าทางบริษัทฯ จะเข้าทำรายการซื้อทรัพย์สินและธุรกิจภายใต้ชื่อทางการค้า “คมชัดลึก” โดยใช้งบประมาณในการซื้อทั้งหมด 70 ล้านบาท และคาดว่าการซื้อขายจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยดำเนินการซื้อตั้งแต่เครื่องหมายการค้า “คมชัดลึก” และการซื้อชื่อโดเมน เว็บไซต์ บัญชีผู้ใช้เฟสบุ๊ค (User Account) บัญชีผู้ใช้ในไลน์ และบัญชีผู้ใช้ในยูทูป ทั้งหมดที่ KMM เป็นเจ้าของหรือมีสิทธิในการใช้งาน และอสังหาริมทรัพย์ที่คมชัดลึก มีเดียใช้ในการทำงานอีกด้วย

และ NBC ยังซื้อบริษัท กรีน เน็ต 1282 จำกัด ต่อจากบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีมูลค่า 164 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อบัญชีผู้ใช้ของเครือ TNEWS และการซื้อกิจการ Call Center ที่ดำเนินการให้กับ Happy Shopping ซึ่งจะทำให้ NBC แข็งแกร่งมากขึ้นอีกด้วย

อินโฟกราฟิกโดย ทินวุฒิ ลิวานัค